สารบัญ
Sky Credit ให้บริการสินเชื่อยังไง ได้เงินจริงไหม? วิธีการสมัครออนไลน์ต้องทำยังไง 2567
ข้าวยากหมากแพง กู้เงินหมุนเวียนใช้จ่ายก็ยาก ไม่รู้จะเลือกสมัครขอสินเชื่อที่ไหนดีใช่ไหม? เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า COVID-19 ที่มีอยู่ในขณะนี้ ทำให้ใครหลายคนเลือกทางเลือกสมัครขอสินเชื่อตามแหล่งเงินกู้ต่าง ๆ โดยไม่สนใจว่าเป็นเงินกู้ในระบบหรือไม่ เพียงเพราะต้องการนำเงินที่ได้มาใช้จ่ายให้พอไปได้ในแต่ละวัน ..และ Sky Credit ก็จัดเป็นสินเชื่อเงินกู้ทางเลือกของคนที่ต้องการเงินด่วนอีกช่องทางหนึ่ง ที่มีการโฆษณาว่าสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ อีกทั้ง sky credit การลงทะเบียนสําเร็จเข้าสู่ระบบเพื่อรับโควตาทันที และมีการให้วงเงินกู้สูงได้จริงอีกด้วย ทั้งนี้ Sky Credit จะมีรายละเอียดอย่างไรบ้างนั้น เราไปดูกันเลย
จุดเด่นและบริการของSky Credit
- sky credit คือ บริการสินเชื่อเงินกู้ และสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำได้ทางออนไลน์
- เริ่มต้นขอสินเชื่อวงเงินตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไปได้เลยทันที และวงเงินสูงสุดสินเชื่อ sky credit จำนวน 20,000 บาทเลยทีเดียว
- ในการดำเนินการขอสินเชื่อ Sky Credit จะต้องเสียค่าบริการให้ 1% ของวงเงินที่สมัคร
- ให้บริการเงินกู้แบบรายบุคคลทั่วไป ไม่ได้ให้อนุมัติวงเงินนามนิติบุคคล
- ผู้สมัครขอสินเชื่อ Sky Credit จะต้องเป็นคนที่มีสัญชาติไทยตามกฎหมายเท่านั้น และได้บรรลุนิติภาวะ อายุตั้งแต่ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- ดอกเบี้ยสินเชื่ออยู่ที่ 15% ต่อปีเท่านั้น
- โปรโมชั่น sky credit การลงทะเบียนสําเร็จเข้าสู่ระบบเพื่อรับโควตาทันที (แต่ไม่มีรายละเอียดเรื่องโควตาที่จะได้รับ)
- ช่องทางการติดต่อออนไลน์ที่ skycredit-th.com สินเชื่อ
ตัวอย่างการคำนวณวงเงิน Sky Credit
แม้ว่าจะมีการอ้างการโฆษณาว่า Sky Credit เป็นสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ แต่เราก็จะต้องมีดูเรื่องการคำนวณสินเชื่อของบริษัทแห่งเงินกู้แห่งนี้ดัน
ตัวอย่างถ้ามีการสมัครขอวงเงิน 20,000 บาท จะมีระยะเวลาขึ้นให้ทันทีว่ากู้ได้ทั้งหมด 180 วันซึ่งเป็นระยะเวลาสูงสุดในการขอสินเชื่อแล้ว ผู้สมัครจะต้องเสียค่าบริการทั้งหมด 1% ซึ่งก็คือวงเงิน 200 บาท และเสียอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 15% ซึ่งก็คือ 1,500 บาท รวมทั้งหมดจะต้องชำระคืนทั้งหมด 21,700 บาท เมื่อครบกำหนดชำระนั้นเอง
ข้อควรระวังเมื่อจะขอสินเชื่อ Sky Credit
Sky Credit เป็นลักษณะของสินเชื่อที่ให้บริการนอกระบบ ไม่ได้จัดอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารกลางหรือก็คือธนาคารแห่งประเทศไทยแต่อย่างใด แน่นอนว่าประเด็นที่ต้องตระหนักอย่างยิ่งเลยก็คือเรื่องความเสี่ยง แม้ว่าจะสามารถขอสินเชื่อได้จริง ทำให้ได้รับเงินโอนเข้าบัญชีเรียบร้อยแล้ว แต่ข้อมูลที่ถูกส่งไป ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนตัว เอกสารเรื่องการแสดงรายได้ ฯลฯ ก็อาจจะรั่วไหลและถูกเปิดเผย หรือนำไปประกอบเรื่องทางการค้าอื่น ๆ ได้เช่นกัน ซึ่งก็เป็นความไม่ปลอดภัยแฝงอาจจะเกิดขึ้นได้